ระเบิดเวลา...แอลพีจี...//

ระเบิดเวลา แอลพีจี..!!

ตั้งท่ามาพักใหญ่แล้ว ในที่สุดการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีภาคอุตสาหกรรม กิโลกรัมละ 3 บาท จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.นี้ ส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมจะต้องซื้อก๊าซแพงขึ้นจากกิโลกรัมละ 18.13 บาท เป็น 21.13 บาท
ตามแผนที่วางไว้ ราคาก๊าซแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมจะทยอยปรับขึ้นทุกไตรมาส หรือ 3 เดือนครั้ง รวม 4 ครั้ง หรือปรับขึ้นรวม 12 บาทต่อกิโลกรัมภายใน 1 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับราคาก๊าซในตลาดโลกที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 30 บาท
ส่วนราคาแอลพีจีภาคครัวเรือน และภาคขนส่ง หรือที่ใช้ในรถยนต์ มีประกาศตรึงราคาไว้ระดับเดิมจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้.. หลังจากนั้น ยังไม่มีแผนชัดเจนว่าจะทำอย่างไร..?!
โครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจีในบ้านเรา ก็เหมือนราคาเชื้อเพลิงอื่น ๆ ที่กลายเป็นสินค้าการเมือง เพราะถูกบิดเบือนกลไกราคามานานแสนนาน จนกลายเป็นปัญหาสะสมเหมือนดินพอกหางหมู แถมยังวางระบบให้สลับซับซ้อน เกี่ยวพันกันไปมา จนยุ่งเหยิงน่าเวียนหัว
มีการเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมัน มาตั้งเป็นกองทุน ซึ่งเดิมมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือดูแลราคาน้ำมันไม่ให้ผันผวนเกินไป
แต่กลับนำเงินกองทุนน้ำมันมาใช้อุดหนุนราคาทั้งก๊าซแอลพีจี-เอ็นจีวี และพลังงานทดแทนอื่น ๆ เช่น แก๊สโซฮอล์ E ต่าง ๆ รวมไปถึง เหวี่ยงแหอุดหนุนราคาดีเซลทั้งระบบ ทั้งที่สามารถเลือกช่วยเหลือ หรืออุดหนุนเฉพาะกลุ่มก็ได้
ครั้นราคาน้ำมันและก๊าซแอลพีจี ผิดเพี้ยนกันมากขึ้น ก็มีผู้ใช้รถจำนวนมากหันมาใช้แอลพีจีแทนน้ำมัน กลายเป็นภาระของกองทุนน้ำมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ
หากจะปรับขึ้นราคาแอลพีจีทั้งหมดในคราวเดียว ค่าครองชีพของประชาชนก็จะพุ่งขึ้นทันที ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าทำ
หรือหากจะปรับขึ้นเฉพาะก๊าซสำหรับรถยนต์ ก็ไม่สามารถป้องกันการลักลอบถ่ายเทก๊าซจากภาคครัวเรือนไปใส่รถยนต์ได้ เคราะห์หนักจึงไปตกอยู่กับภาคอุตสาหกรรมฝ่ายเดียว
อันที่จริงแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ประกอบการอุตสาหกรรมจะต้องจ่ายค่าก๊าซ แพงกว่าปกติ แต่เป็นการจ่ายในราคาที่ ใกล้ระดับปกติ มากกว่าคนอื่นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมยังเกิดความรู้สึกว่าเสียเปรียบคนอื่น จึงออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านกันเต็มที่ โดยเฉพาะ กลุ่มเซรามิกส์ที่จังหวัดลำปาง ซึ่งใช้แอลพีจีเป็นเชื้อเพลิงหลัก และเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกือบทั้งหมด
จะว่าไปแล้วทั้งนักการเมืองและข้าราชการระดับหัวกะทิในกระทรวงพลังงาน ต่างก็ทราบดีว่าปัญหาโครงสร้างราคาพลังงานอันแสนยุ่งเหยิงนี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางออก
รัฐบาลอาจจะหาวิธีช่วยเหลืออุตสาหกรรมเอสเอ็มอี ให้ใช้เชื้อเพลิงอื่น หรือลดรายจ่ายทางอื่นที่สมน้ำสมเนื้อกัน ก่อนจะปรับราคาก๊าซก็ได้.. แต่ก็ไม่ได้ทำ..
รัฐบาลไม่กล้าขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีสำหรับรถยนต์ เพราะกลัวจะป้องกันการลักลอบถ่ายเทก๊าซไม่ได้ ก็อาจใช้วิธี ปรับขึ้นภาษีรถยนต์ที่ใช้ก๊าซแอลพีจี ก็ได้ แต่ก็ยังไม่ได้ทำอีกเหมือนกัน..
แม้แต่โครงการสนับสนุนให้แท็กซี่ เปลี่ยนมาใช้เอ็นจีวี แทนแอลพีจี ก็ยังคาราคาซังมาหลายปี ทำไม่สำเร็จเสียที..
ก๊าซ แอลพีจี จึงกลายเป็นระเบิดเวลาที่รัฐบาลส่งต่อกันมาเป็นชุด ๆ จนทุกวันนี้.. !!