หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เมษายน 18, 2024, 09:16:55 am
ข่าว:
@ติดต่อไทยระยอง[e-mail : ThaiRayong.webmaster@gmail.com] (098-2933593 , Facebook.com/ThaiRayongFanPage)ปิดระบบสมัครสมาชิกชั่วคราว
กลับหน้าแรกไทยระยอง แผนที่ระยอง | ที่พักระยอง | ของกินระยอง | เที่ยวระยอง | ซื้อขายสร้างบ้านและการตกแต่ง | เยาวชนคนดีศรีระยอง
**1672ข้อมูลท่องเที่ยว 1155 ตำรวจท่องเที่ยว, 1669แพทย์ฉุกเฉิน กู้ชีพ
**ข่าวภาพ คลิป** #คลิกที่นี่ รวมกิจกรรม ข้อมูล ในระยองและใกล้เคียง
สนับสนุนโดย ระยองทรัพย์ปิโตรเลียม
สนับสนุนโดย สุขเกษมการบัญชี
สนับสนุนโดย บ้านครูโอ๊ะ
ติดต่อต่อป้ายโฆษณา 098-2933593

รวมบันทึก ตามพระราชดำริ
คลิก แผนที่เที่ยวระยอง  |   เบอร์โทรสำคัญ  |   วัดในระยอง  |   เที่ยวระยอง  |   เที่ยวทั่วไทย  |  เสม็ด&การเดินทาง  |  ที่พัก  |  ร้านอาหาร  |  Webboard(ข้อมูลท่องเที่ยวกิจกรรม update ทุกวัน!)   |  หางาน
คลิก: @HAM @ฟ้าใสระยอง145.200 @จอมแหEnduro @รวมเอ็นดูโร่ @โมโตครอสโลกMotocrossWorld @ไบค์เกอร์ @offroad @เดินวิ่ง @จักรยาน @ดำน้ำ @KiteBoarding @ฟุตบอล @กอล์ฟ @ไตรกีฬา @Darts

+  ระยอง-เสม็ด:รวมกิจกรรม กีฬา งานบุญ งานอาสา ที่พัก ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ธุรกิจ ในระยองและทั่วไทย
|-+  รวมข่าวประชาสัมพันธ์ นักวิทยุสมัครเล่นฯ
สนับสนุนโดย


| |-+  กลุ่มนักวิทยุสมัครเล่นฯ
| | |-+  Amateur Radio สระบุรี
| | | |-+  'ฝังเข็ม' รักษาโรค...ฟื้นฟูสมองลดความเสี่ยงอัมพฤกษ์-อัมพาต
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: 'ฝังเข็ม' รักษาโรค...ฟื้นฟูสมองลดความเสี่ยงอัมพฤกษ์-อัมพาต  (อ่าน 10557 ครั้ง)
E20ZSY
Hero Member
*****
กระทู้: 5794


"การลงมือทำ ดีกว่าคำพูด ที่สวยหรู"


เว็บไซต์
« เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2011, 07:55:02 am »

'ฝังเข็ม' รักษาโรค...ฟื้นฟูสมองลดความเสี่ยงอัมพฤกษ์-อัมพาต

โรคอัมพฤกษ์อัมพาต เป็นโรคที่เป็นเรื้อรังยากแก่การรักษาให้หายเป็นปกติและต้องใช้เวลานาน สร้างความท้อแท้ให้แก่ผู้ป่วยและญาติ แต่ล่าสุดกรณีอาการของ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยาหรือ “หมอมุก” แพทย์ประจำ รพ.พระมงกุฎ ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง จนล่าสุดมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ก็เนื่องจากการนำศาสตร์แพทย์แผนจีนอย่าง “การฝังเข็ม” มารักษาร่วมด้วยจึงได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ
   
ดร.คิงส์ตัน ซี ฮาว อุย แพทย์แผนจีนด้านการฝังเข็มฟื้นฟูระบบประสาท ดร. คิงส์ตันคลินิก ให้ความรู้ว่า ในประเทศไทยผู้ที่ประสบอุบัติเหตุทางสมองส่วนใหญ่มาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์จนกลายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือนจนเลือด ลม อุดและคั่งค้างอยู่จุดใดจุดหนึ่งในสมอง ซึ่งก็เหมือนกับคนที่ช้ำใน เลือดออกข้างในแต่เรามองไม่เห็นและถ้ามันคั่งอยู่จะกลายเป็นเลือดเสียจนอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
   
สมัยก่อนการรักษาแบบแพทย์แผนจีนที่รักษาอวัยวะช้ำในส่วนใหญ่จะนำเอาเลือดเสียที่อุดอยู่ปล่อยออกมาให้ได้ หลังจากนั้นจึงจะรักษาต่อได้ เช่น คนที่ประสบอุบัติเหตุทางสมองทำให้ระบม ยกตัวอย่างเช่นหมอมุก โดยจะมีอาการช้ำในและปวดหลังจากเลือดหยุดแล้ว และจะมีเวลาปวด อักเสบ และไข้ขึ้นอยู่ประมาณ 2-6 สัปดาห์ ซึ่งระหว่างนี้ต้องมีการผ่าตัดนำเอาเลือดเสียออก หลังจากนั้นเราจะเริ่มทำการฟื้นฟูด้วยการฝังเข็ม ช่วงเวลาของการฟื้นฟูด้วยการฝังเข็มที่ได้ผลที่สุดคือ 6 สัปดาห์ถึง 6 เดือน หลังจากประสบอุบัติเหตุ
   
ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่สำคัญที่เราจะรีบเร่งรักษาด้วยการฝังเข็ม แต่บางศาสตร์บอกว่าช่วงนี้ควรทำกายภาพบำบัด แต่ถ้าเป็นคนไข้ที่ไม่สามารถขยับตัวได้ การทำกายภาพบำบัดก็ช่วยอะไรไม่ได้ ซึ่งการฝังเข็มจะมีจุดเด่นตรงนี้ที่สามารถช่วยให้คนไข้สามารถเคลื่อนไหวได้ และเมื่อเคลื่อนไหวได้ก็สามารถทำกายภาพบำบัดได้ดี ดังนั้นจึงต้องทำควบคู่กันไปจึงจะได้ผลดีที่สุด
   
อย่างไรก็ตามวิธีการฝังเข็มรักษาสมองก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ด้วยว่าถ้าหากคนไข้ไม่สามารถนั่งได้ มือไม่สามารถขยับหรือใช้งานได้ ยืนไม่ได้ การควบคุมปัสสาวะไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับเส้นประสาทของการสั่งงานต่าง ๆ ดังนั้นเมื่อสมองไม่สามารถสั่งการได้อวัยวะต่าง ๆ ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ โดยวิธีรักษาเราจะเริ่มดูว่าคนไข้เป็นอัมพาตข้างซ้ายหรือข้างขวา ถ้าหากเป็นข้างซ้ายสมองสั่งการจะอยู่ด้านขวา แต่ถ้าเป็นด้านขวาสมองสั่งการจะอยู่ด้านซ้ายซึ่งมันจะสลับนอกจากนี้การฝังเข็มที่ศีรษะมีจุดตำแหน่งเยอะมาก แพทย์จึงต้องชำนาญมากในการวินิจฉัยก่อนทำการรักษา
   
ศีรษะของมนุษย์มีตำแหน่งเส้นประสาทมากมาย เช่น ตำ แหน่งเส้นประสาทเกี่ยวกับการสัมผัส ความรู้สึก การพูด การมองเห็น การทรงตัว โดยแพทย์จะต้องวินิจฉัยว่าคนไข้แต่ละคนจะต้องฝังเข็มกี่จุดและใช้ตำแหน่งใดบ้าง และแพทย์ก็จะทำการฝังเข็มที่ผิวหนังบนศีรษะ ซึ่งบริเวณนี้จะมีจุดที่เข็มสามารถกระตุ้นและสะท้อนเข้าไปอยู่ในเส้นประสาทสมอง หรือเราเรียกว่า “จุดสะท้อน” ซึ่งเหมือนกับการเปิดจุดเชื่อมโยงต่อกับเส้นประสาท ทำให้มีออกซิเจนและเลือดเข้าไปไหลเวียนอยู่ในสมองมากขึ้น ทำให้สมองมีการตื่นตัว และเมื่อสมองมีการตื่นตัวมากขึ้น เซลล์สมองที่เกี่ยวกับเส้นประสาทก็จะกลับมาสมบูรณ์มากขึ้น
   
เข็มที่ใช้จะเป็นเข็มที่นำเข้าจากประเทศจีนมีลักษณะกลมมนไม่เหมือนเข็มเย็บผ้าที่เมื่อเข้าไปในผิวหนังแล้วจะรู้สึกเจ็บ แต่เข็มที่แพทย์ใช้เมื่อฝังเข้าไปใต้ผิวหนังแล้วจะไม่รู้สึกเจ็บ และเมื่อดันเข้าไปถึงจุดจะรู้สึกตึง หน่วง เสียว ร้อน เราเรียกว่าเป็นจุดลมปราณ โดยรวมจะใช้เข็มประมาณ  13-14 อัน  และใช้เวลาปักเข็มนานประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระหว่างที่มีเข็มปักติดอยู่ที่ศีรษะ หมอจะเร่งการฟื้นฟูด้วยการให้ฝึก เช่น มือจับใช้การไม่ได้ก็จะให้ฝึกจับปากกาไปด้วย หรือพูดไม่ได้ก็จะฝึกให้เปล่งเสียงไปด้วย แต่ต้องให้อยู่ในห้องที่เงียบมีสมาธิ หลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมงก็จะถอดเข็มออก ซึ่งคนไข้ที่เป็นใหม่ ๆ จะแนะนำให้ฝังเข็มประมาณอาทิตย์ละ 6 วัน เมื่ออาการดีขึ้นจะฝังเข็มสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับการพัฒนาของคนไข้ด้วย บางคนก็ไม่หายร้อยเปอร์เซ็นต์อาจจะแค่ 30 เปอร์เซ็นต์หรือบางคนก็สามารถหายและใช้ชีวิตได้เป็นปกติ
   
สำหรับการรักษาด้วยการฝังเข็มให้แก่ผู้ที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจากการประสบอุบัติเหตุที่เป็นมานานหลายปีแล้วก็ยังสามารถรักษาได้ แต่ขึ้นอยู่กับอายุด้วย ซึ่งอายุไม่ควรเกิน 50 ปีจึงมีโอกาสหายได้ เพราะเป็นวัยที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์อยู่ โอกาสที่จะทำการฟื้นฟูก็ดีกว่า แต่ต้องใช้เวลานานกว่าคนที่เพิ่งเป็น บางคนอาจหายเป็นปกติ หรือบางคนก็ไม่หายเป็นปกติแต่อาการดีขึ้นกว่าเดิม
   
นอกจากการฝังเข็มจะช่วยรักษาฟื้นฟูสมองผู้ที่ประสบอุบัติเหตุแล้วยังสามารถรักษาได้อีกหลายโรค เช่น โรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน เด็กที่ขาดออกซิเจนมีอาการชัก กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฯลฯ กรณีที่ฝังเข็มรักษาหายแล้วและหยุดฝังเข็มจะสามารถกลับมาเป็นโรคได้อีก เช่น คนไข้ที่เป็นเส้นโลหิตตีบ เพราะไม่ดูแลเรื่องอาหารการกิน เช่น กินเค็ม กินมัน ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือออกไปตากแดด จัด ๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะเส้นโลหิตสมองจะบอบบางกว่าคนอายุน้อย ๆ  หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ เช่น การงานหนักจนเหนื่อยมากเกินไป
   
ดังนั้นจึงแนะนำให้คนไข้ตรวจร่างกายเป็นประจำ โดยเฉพาะเรื่องความดัน หัวใจ และการใช้ยาก็ควรระมัดระวังเพราะอาจทำให้ไตเสื่อมได้ ที่สำคัญไม่ทานอาหารรสจัด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำอารมณ์ให้แจ่มใสร่าเริง ส่วนญาติผู้ป่วยต้องเข้า ใจอารมณ์ผู้ป่วยเพราะมักจะมีอารมณ์ท้อแท้ ท้อใจ ถ้าหากเป็นมากควรต้องรักษาร่วมกับจิตแพทย์ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราควรป้องกันอุบัติเหตุไว้ก่อนด้วยการสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งที่ขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ หรือหากเดินทางโดยรถยนต์ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยและเด็กที่เล่นกีฬาผาดโผนก็ควรเซฟตัวเองให้มาก ๆ.

...................

เคล็ดลับสุขภาพดี :  แนะวิธีดูแล 'ฟัน' ให้ขาวสะอาดมีสุขภาพดี

การมีฟันขาวถือเป็นการสร้างบุคลิกภาพที่ดีอย่างหนึ่งให้กับเราเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ แต่บางคนกลับขาดความมั่นใจเนื่องจากฟันไม่ขาวแถมยังมีสุขภาพไม่ดีอีกด้วย วันนี้เคล็ดลับสุขภาพดีมีวิธีแก้ไขให้ฟันขาวสะอาดและมีสุขภาพแข็งแรงมาฝากกันค่ะ
   
ทันตแพทย์หญิงอรสิริ จันทนฤกษ์ แพทย์แผนกทันตกรรมโรงพยาบาลยันฮี ให้ความรู้ว่า การที่คนเรามีสีฟันไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของโครงสร้างฟัน พันธุกรรมและปัจจัยอื่น ๆ ที่ได้รับ โดย โครงสร้างของฟัน ประกอบด้วยเคลือบฟันคือชั้นนอกสุดมีสีขาวใส ถัดมาคือ เนื้อฟัน จะมีสีที่แตกต่างกัน เช่น เหลือง น้ำตาล ชั้นในสุด คือ โพรงประสาทฟัน คนที่อายุน้อยเคลือบฟันจะมีความหนา ฟันจึงดูขาว เมื่ออายุมากขึ้นชั้นเคลือบฟันบางลงทำให้เห็นสีของเนื้อฟันมากขึ้น ฟันจึงมีสีเหลืองมากขึ้น และกรณีที่มีปัจจัยอื่น ๆ ร่วม ได้แก่ ปัจจัยภายนอก เช่น คราบอาหาร ชา กาแฟ หินปูน ส่วนปัจจัยภายใน เช่น การได้รับยาปฏิชีวนะกลุ่มเตตร้าซัยคลิน ได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป การมีฟันผุ ฟันตาย ฟันได้รับอุบัติเหตุ เป็นต้น
   
หากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับสีของฟัน การฟอกสีฟันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้ แต่แพทย์จะวินิจฉัยผู้ป่วยแต่ละรายด้วยว่าเหมาะสมจะฟอกสีของฟันหรือไม่ เช่น กรณีที่ฟันเหลืองจากคราบอาหาร บุหรี่ หินปูน ไม่จำเป็นต้องฟอกสีฟัน แต่สามารถกำจัดออกได้ด้วยการขูดหินปูนและขัดฟัน แต่ถ้าฟันสีเข้มไม่มากก็สามารถฟอกสีฟันได้ส่วนกรณีที่ฟันมีสีเข้มมาก ๆ เช่น ได้รับยาปฏิชีวนะ หรือฟลูออไรด์มากเกินไป ซึ่งจะมีสีน้ำตาลเข้ม เทาเข้มถึงดำ ทำให้พบฟันตกกระร่วมกับมีการกร่อนของฟันจะไม่สามารถแก้ไขด้วยการฟอกฟันแต่จะแนะนำให้ทำการเคลือบฟัน และกรณีมีฟันผุ ต้องทำการอุดและหากมีฟันตายแพทย์จะแนะนำให้ทำการเคลือบฟัน
   
นอกจากนี้การเลือกอาหารก็สำคัญ เพราะหากเลือกรับประทานไม่ถูกต้อง อาหารอาจกลายเป็นศัตรูของฟันได้ ฉะนั้นเราจึงควรเลือกรับประทานอาหารเพื่อดูแลสุขภาพฟันให้สะอาดแข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ มีคุณค่าทางโภชนาการ อาหารพวกแป้งและน้ำตาลให้กินในมื้ออาหารและกินอาหารในกลุ่มโปรตีนและผลไม้เป็นอาหารว่าง ไม่กินจุบกินจิบ โดยอาหารที่มีประโยชน์ เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม ผักผลไม้ หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดฟันผุ เช่น ของหวานเหนียวติดฟัน น้ำอัดลม และหลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งที่อาจทำให้ฟันร้าวหรือแตกได้ เช่น น้ำแข็ง ก้ามปู แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลังรับประทานอาหารแล้วต้องมีการดูแลทำความสะอาดฟันด้วยการแปรงฟัน ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดคราบสีบนผิวฟัน เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มชา กาแฟ และควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน
   
หากปฏิบัติได้อย่างที่แนะนำไปเชื่อว่าเราจะมีฟันที่ขาวสะอาดและมีสุขภาพดี ยิ้มได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องอายใคร.

...................

สรรหามาบอก

- โรงพยาบาลกรุงเทพ ร่วมกับศูนย์เยาวชนลุมพินีและสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ขอเชิญชวนคนรักสุขภาพทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม “รวมพลคนกรุงสุขภาพดี” รับฟังสาระความรู้เรื่อง “โรคต้อหิน” และร่วมพูดคุยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพจากแพทย์ พร้อมรับบริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น อาทิ ตรวจวัดความดันโลหิต ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เฉพาะ 100 ท่านแรกที่ลงทะเบียนหน้างาน กรุณางดน้ำและอาหาร 6-8 ชั่วโมง (โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย) ใน วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2554 เวลา 06.00–  09.00 น. ณ ด้านหน้าอาคารพลเมืองอาวุโส กรุงเทพมหานคร สวนลุมพินี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 1719
   
- คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมอบรมเรื่อง “รามาธิบดี : ห่วงใยใส่ใจสุขภาพฟัน” ใน วันพุธที่ 27 กรกฎาคม 2554 เวลา 08.30-15.00 น. ณ ห้องประชุมอรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ศูนย์การแพทย์  สิริกิติ์ ชั้น 5 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ สนใจสอบถามเพิ่มเติมและสมัครลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่โทร. 0-2201-2521
   
- โรงพยาบาลปิยะเวท ขอเชิญผู้สนใจร่วมฟังเสวนาเรื่อง นวัตกรรมการฟื้นฟูสภาพผิวหน้าด้วยเลเซอร์ยุคใหม่, การเตรียม พร้อมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และการปรับสมดุลฮอร์โมนดูแลร่างกายแบบองค์รวม ในงาน “Ladies…Love to be Healthy & Beauty” ใน วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2554 เวลา 09.00–16.00 น. พร้อมรับบริการสุขภาพเบื้องต้น เพื่อต้อนรับเทศกาลวันแม่ฟรี! อาทิ ตรวจมวลกระดูก, ตรวจสภาพผิวหน้า, ตรวจระดับไขมันใต้ผิวหนัง, ตรวจสารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ ณ ชั้น G อาคาร Ideal Imaging โรงพยาบาลปิยะเวท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2625-6555
   
- คณะเวชศาสตร์เขตร้อนมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมวิชาการนานาชาติ “AIDS Vaccine Conference 2011” เพื่อส่งเสริมเพิ่มพูนความรู้ในด้านการพัฒนาวัคซีนเอดส์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน 2554 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ขอเชิญแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ นักวิจัยและผู้สนใจเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวได้ โดยสามารถดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ www.vaccineenterprise.org
บันทึกการเข้า

รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย 145.150 , 145.4125

ขอขอบพระคุณผู้สนับสนุนเวบไซค์ ThaiRayong.com
**สนใจป้ายโฆษณา ติดต่อจองเป็นผู้สนับสนุน โทร จำนวนจำกัด **

โรงงานผลิตจำหน่ายเสื้อคอกลม เสื้อโปโล งานปัก สกรีน งานด่วนสั่งได้ ราคาเป็นกันเอง 089-487-8789 tour rayong rayong resort rayong food



ข้อมูลติดต่อ ไทยระยองดอทคอม:
แผนที่ ที่พัก เที่ยว กิน ชอป คลิก https://www.thairayong.com
เราคือเพื่อนกัน...เพื่อนไทยระยองดอทคอม
thairayong.webmaster@gmail.com | www.facebook.com/thairayong
คำเตือน:โปรดระวัง! การซื้อ-ขายใดๆในนี้ ผู้เข้าชมติดต่อธุรกิจนั้นๆเอง ซึ่งเราไม่เกี่ยวข้องใดๆ
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  









เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!