ระยอง-เสม็ด:รวมกิจกรรม กีฬา งานบุญ งานอาสา ที่พัก ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ธุรกิจ ในระยองและทั่วไทย

รวมข่าวประชาสัมพันธ์ นักวิทยุสมัครเล่นฯ
สนับสนุนโดย

=> Amateur Radio สระบุรี => ข้อความที่เริ่มโดย: E20ZSY ที่ พฤศจิกายน 28, 2011, 09:52:21 am



หัวข้อ: ปวดบิดใต้ชายโครงขวา 'นิ่วในถุงน้ำดี'
เริ่มหัวข้อโดย: E20ZSY ที่ พฤศจิกายน 28, 2011, 09:52:21 am
ปวดบิดใต้ชายโครงขวา'นิ่วในถุงน้ำดี'

(http://image.ohozaa.com/i/541/uiYum.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5kej1)

อาการปวดท้อง มีหลายลักษณะและเกิดขึ้นในบริเวณที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอวัยวะต้นตอของโรค กรณีของ 'นิ่วในถุงน้ำดี' ก็มีอาการเฉพาะตัวที่ผู้อ่านควรรู้ให้เท่าทัน

ถุงน้ำดี เป็นอวัยวะที่อยู่ใต้ตับทางด้านขวา หรือบริเวณใต้ชายโครงขวา หน้าที่คือเก็บน้ำดีที่ผลิตมาจากตับ และบีบตัวขับน้ำดีลงไปในลำไส้เพื่อย่อยอาหารประเภทไขมัน

เมื่อมีนิ่วเกิดขึ้นในถุงน้ำดีจะทำให้ถุงน้ำดีทำงานไม่ปกติไปโดยปริยาย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการหลั่งคอเลสเตอรอลออกมาในน้ำดีมากเกินปกติ และเยื่อบุผิวภายในถุงน้ำดีมีความผิดปกติจากการติดเชื้อเรื้อรังแบบไม่รู้ตัวและไม่มีอาการผิดปกติมาก่อน ส่งผลให้สัดส่วนของสารต่างๆ ในน้ำดี ที่ประกอบด้วยน้ำ,คอเลสเตอรอล,ไขมัน และเกลือน้ำดี เสียสมดุล จนเกิดการตกผลึกคอเลสเตอรอลหรือเกลือ และมีหินปูนมาจับตัวร่วมด้วย กลายเป็นก้อนนิ่วในถุงน้ำดี บ้างครั้งเป็นก้อนเดี่ยว หรือเป็นก้อนเล็กๆ หลายก้อน

สำหรับอาการสำคัญของนิ่วในถุงน้ำดี คือ อาการปวดบิดลึกๆ ในตำแหน่งใต้ชายโครงขวาและร้าวลามไปยังหลังกับลิ้นปี่ โดยอาการปวดมักเกิดขึ้นหลังผู้ป่วยเพิ่งรับประทานอาหารมื้อใหญ่และมีอาหารที่ค่อนข้างมันมาก อีกทั้งส่วนใหญ่มักปวดในเวลากลางคืน  จะปวดอยู่นาน 15 นาที ถึง 3 ชั่วโมง เกิดเพราะการอุดตันของนิ่วบริเวณปากถุงน้ำดีจนอักเสบ จากนั้นอาการปวดจะเปลี่ยนเป็นอาการคงที่ หายใจลำบาก เนื่องจากเจ็บบริเวณถุงน้ำดี นอกจากนี้ยังอาจพบอาการท้องอืด ไข้ฉับพลัน ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะเป็นสีส้มร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม แพทย์มักแนะนำว่า หากอาการปวดท้อง ไม่ว่าจะมีลักษณะแบบใดก็ตาม เกิดขึ้นนานกว่า 1 ชั่วโมงไม่หาย ทั้งๆ ที่ตัวผู้ป่วยอาจกินยาเพื่อบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นไปแล้ว ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ชัดเจน ส่วนผู้ที่มีอาการเข้าข่ายนิ่วในถุงน้ำดี การตรวจที่แน่ชัดคือการตรวจอัลตราซาวนด์

การรักษา มีทั้งการกินยาสลายนิ่ว ซึ่งต้องกินติดต่อกันเป็นเวลานาน ใช้ได้กับนิ่วบางชนิดเท่านั้น หากหยุดยาก็มีโอกาสเกิดนิ่วขึ้นอีก นอกจากนี้ยังมีการผ่าตัด 2 ชนิด คือ ผ่าตัดเปิดหน้าท้อง จัดเป็นวิธีผ่าตัดรักษาแบบดั้งเดิม มักใช้กับผู้ป่วยที่ถุงน้ำดีอักเสบมากหรือแตกทะลุในช่องท้อง อีกวิธีเป็นการผ่าตัดที่นิยมในปัจจุบัน เรียกว่า การผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง เจาะรูเล็กๆ ที่หน้าท้อง  4 จุด เพื่อใส่กล้องและเครื่องมือผ่านรูที่เจาะไว้ เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการถุงน้ำดีอักเสบฉับพลัน

หนทางหลีกไกลจากนิ่วในถุงน้ำดี คือ รักษาระดับคอเลสเทอรอลในเลือดให้เป็นปกติ และควบคุมอาหารการกิน ไม่กินของมันๆ หรือของทอดมากเกินไป ขณะที่การกินอาหารจำพวกแป้งที่ไม่ขัดสี, ผักและผลไม้สด, ข้าวโอ๊ต และถั่ว สามารถช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้.