ระยอง-เสม็ด:รวมกิจกรรม กีฬา งานบุญ งานอาสา ที่พัก ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ธุรกิจ ในระยองและทั่วไทย

รวมข่าวประชาสัมพันธ์ นักวิทยุสมัครเล่นฯ
สนับสนุนโดย

=> Amateur Radio สระบุรี => ข้อความที่เริ่มโดย: E20ZSY ที่ กรกฎาคม 23, 2011, 08:26:18 am



หัวข้อ: ตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแรกด้วยวิธี พีเอสเอ
เริ่มหัวข้อโดย: E20ZSY ที่ กรกฎาคม 23, 2011, 08:26:18 am
ตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแรกด้วยวิธี พีเอสเอ
(http://image.ohozaa.com/i/705/LD6pf.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/1u52)
การตรวจคัดกรองโรคทั่วไปเพื่อตรวจหามะเร็งก่อนที่ผู้ป่วยจะมีอาการ ซึ่งจะช่วยให้หามะเร็งในระยะแรกเริ่มได้  ทำให้ง่ายต่อการรักษา  แต่เมื่อมีอาการแล้ว จะเริ่มมีการกระจายของโรค การตรวจคัดกรองโรคจะเหมาะสมกับผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงสูง นอกจากนี้ถ้าการตรวจคัดกรองโรคผิดปกติ  ต้องมีการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม การตรวจคัดกรองโรคที่ดีสามารถช่วยค้นหาโรคมะเร็งในระยะเริ่มต้นและลดโอกาสการเสียชีวิตจากมะเร็งได้
สำหรับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งต่อมลูกหมากนั้นยังไม่ได้เป็นการตรวจแบบมาตรฐานหรือทำเป็นประจำ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการศึกษาอยู่  อย่างไรก็ตามเมื่อเร็ว ๆ นี้มีการค้นพบข้อมูลว่าการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเป็นสิ่งที่ควรแนะนำให้ตรวจเป็นประจำ
นอกจากนี้การวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากประกอบไปด้วยการตรวจทางทวารหนักและการตรวจเลือดหาค่า พีเอสเอ ซึ่ง พีเอสเอ เป็นสารที่ส่วนใหญ่สร้างจากต่อมลูกหมากโดยที่ค่า พีเอสเอ อาจพบสูงขึ้นในเลือดของผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก อย่างไรก็ตาม ระดับ พีเอสเอ อาจพบสูงได้ในการติดเชื้อ การอักเสบของต่อมลูกหมากหรือต่อมลูกหมากโตมาก
มีการค้นคว้าจากประเทศสวีเดน  แสดงว่าอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมากสามารถลดลงได้เกือบร้อยละ 50  ข้อมูลใหม่นี้สามารถช่วยลดความไม่แน่ใจของการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก ปัจจุบันแนวทางการรักษาของสมาคมศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เสนอให้มีการให้คำแนะนำก่อนการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก และควรตรวจเมื่ออายุ 40-45 ปี ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงสูงของการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เช่น มีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก  แนวทางปฏิบัติรักษามะเร็งแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกาประจำปี  ค.ศ. 2010 แนะนำให้มีการตรวจ พีเอสเอ ร่วมกับการตรวจทางทวารหนักเมื่ออายุ 40 ปี ควรมีการตรวจ พีเอสเอ ซ้ำที่อายุ 45 และ 50 ปีสำหรับผู้ชายที่มีอัตราเสี่ยงและควรติดตามการรักษาทุกปี
นอกจากนี้การศึกษาแบบสุ่มตัวอย่างของประเทศในทวีปยุโรปด้วยการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก  สรุปว่าการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยค่า พีเอสเอ สามารถลดการเสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมากได้ร้อยละ 20  จากการศึกษาการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากในประชากรของประเทศสวีเดน สามารถสรุปได้ว่าการคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากสามารถลดการสูญเสียชีวิตจากมะเร็งได้ร้อยละ 44 ซึ่งการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าสัดส่วนการกระจายของมะเร็งที่เริ่มได้รับการวินิจฉัยลดลงร้อยละ 75 และสามารถลดการเสียชีวิตได้ร้อยละ 40
ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกได้แสดงผลคล้ายกันคือการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งคล้ายกันในประเทศที่มีการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากและได้รับการรักษาแบบอย่างดีในผู้ชายที่ตรวจแล้วเป็นมะเร็ง กุญแจสำคัญของความแตกต่างระหว่างการทดลองการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากคือระยะเวลาในการศึกษา รายงานของ อีอาร์เอสพีซี ช่วงแรกที่มีการติดตามน้อยกว่า 10 ปี แสดงว่าต้องมีการตรวจคัดกรอง 1,400 คนและรักษาจำนวน 48 คน จึงหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตจากมะเร็งได้หนึ่งคน ทำให้มีการแปลผลว่าการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากไม่เหมาะสม เนื่องจากต้องใช้การตรวจคนจำนวนมากจึงจะช่วยการเสียชีวิตจากมะเร็งได้เพียงหนึ่งคน
หลังจากขยายเวลาของข้อมูลอีอาร์เอสพีซี ไปมากกว่า 12 ปี พบว่าสามารถลดจำนวนความต้องการในการคัดกรองเป็น 500 คน และจำนวนที่ต้องได้รับการรักษาป้องกันมะเร็งเสียชีวิตเพียง 18 คน จึงหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตจากมะเร็งได้หนึ่งคนในการศึกษาหนึ่งของประเทศสวีเดน มีการติดตามเป็นเวลา 14 ปี พบว่าต้องการจำนวนการตรวจคัดกรองทั้งหมด 293 คน และ 12 คนต้องการวินิจฉัยเพื่อป้องกันการตาย จากมะเร็งต่อมลูกหมากได้หนึ่งคน ในขณะเดียวกันจำนวนที่ต้องการรักษาสำหรับมะเร็งเต้านมที่ติดตามมา10 ปีต้องเป็น10 คน
ผลของข้อมูลดังกล่าวอาจสรุปได้ว่าการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยการตรวจเลือดหาค่าพีเอสเอ เป็นการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งที่เป็นแบบมาตรฐานหรือควรทำเป็นประจำ จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะส่วนใหญ่มีความรู้สึกที่มั่นใจมากขึ้นสำหรับคุณค่าของการตรวจคัดกรองด้วยค่า พีเอสเอ อย่างไรก็ตามสิ่งที่จำเป็นที่ต้องปฏิบัติคือการให้การศึกษาแพทย์ทั่วไปและประชาชนให้ใช้การตรวจ พีเอสเอ อย่างถูกต้อง.