หัวข้อ: เทศกาลท่องเที่ยวปลายฝน ต้นหนาว รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม จ.อุบลฯ 25 ธ.ค.54-3 ม.ค.55 เริ่มหัวข้อโดย: E20ZSY ที่ ธันวาคม 04, 2011, 05:50:18 pm รับตะวันใหม่ก่อนใคร
อุบลราชธานี เป็นจังหวัดหนึ่งที่ชอบไปเยือน เพราะเมืองนี้นอกจากจะมีที่เที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามแล้ว ยังมีแหล่งโบราณคดีทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกด้วย ดังคำขวัญที่ว่า เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์ ล่าสุด ยุพา ปานรอด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี (ททท.สอบ.) ซึ่งรับผิดชอบ จ.ยโสธร และอำนาจเจริญด้วย เชิญให้ไปร่วมงานแถลงข่าว เทศกาลท่องเที่ยวปลายฝน ต้นหนาว รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม เพื่อตีปี๊บให้นักเดินทางได้วางแผนมาเที่ยวปีใหม่ที่นี่แต่เนิ่นๆ เรียกว่าทำงานเป็นว่างั้นเถอะ งานนี้จัดใหญ่ เพราะเชิญคนใหญ่คนโตในจังหวัดมาเพียบ ไล่ตั้งแต่ สุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พัฒน์มาศ วงศ์พัฒนศิริ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแต้ม พร้อมด้วยกองทัพนักข่าวจากส่วนกลาง ในพื้นที่ และจาก จ.ภูเก็ต รวมแล้วครึ่งร้อย มาฟังการแถลงข่าวกันกลางทุ่งดอกไม้ป่าของอุทยานผาแต้ม <a href="http://image.ohozaa.com/view/5sisr" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/t/3fa/KDhK0.jpg" /></a> สุรพล บอกว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายัง จ.อุบลราชธานี จะได้พบกับความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวตามฤดูกาล อาทิ งานประเพณีแห่เทียนพรรษา หรือถ้ามาในช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็จะมีกิจกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียง นั่นคือ งานรับตะวันใหม่ก่อนใครในประเทศสยาม บริเวณผาชะนะได อุทยานผาแต้ม โดยจะมีพิธีต่อแสงตะวันในวันที่ 31 ธ.ค. 2554 และมีการใส่บาตรพิธีพุทธในตอนเช้าของวันที่ 1 ม.ค. 2555 โดยผู้ที่เดินทางเข้ามาร่วมในงานจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากเป็นผู้เห็นตะวันออกก่อนใคร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น งานไหลโคมล่องโขง ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค. 25543 ม.ค. 2555 โดยจะมีการประดับโคมนักษัตรปีเถาะ (รูปกระต่าย) และปีมะโรง (รูปงูใหญ่) บริเวณสวนสาธารณะดอนหินตั้ง อ.โขงเจียม ลอยสิ่งที่ไม่ดีให้ผ่านไปกับสายน้ำ รวมทั้งจะมีการประดับตกแต่งดวงไฟกลางแม่น้ำโขงเพื่อเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมฉลอง 100 ปี อ.โขงเจียม นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการแสดงตนตรีพื้นบ้าน รำกระบองไฟ และตักบาตรต้อนรับปีใหม่เช้าวันที่ 1 ม.ค. 2555 (http://image.ohozaa.com/i/3b6/rcHJQ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sist) ผวจ.อุบลฯ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การเดินทางมายังเมืองดอกบัวแห่งนี้เพียงครั้งเดียวไม่สามารถท่องเที่ยวได้ครบทุกพื้นที่ เพราะแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งยังต้องรอเวลาที่เหมาะสมตามฤดูกาล ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ กวี แนะนำว่า ถ้ามาผาแต้มตอนนี้จะได้พบกับทุ่งดอกไม้ตามรอยเสด็จที่อยู่ทางเหนือของน้ำตกสร้อยสวรรค์ ซึ่งจะมีให้ดูถึง 6 แปลงใหญ่ สามารถเข้าชมได้จนถึงเดือน ม.ค. โดยอุทยานจัดเจ้าหน้าที่ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวด้วย ที่นั่นมีดอกไม้ให้ชมมากถึง 30กว่าชนิด เช่น ดุสิตา สร้อยสุวรรณา มณีเทวา ทิพเกสร สรัสจันทร หญ้าเข็ม จอกบ่วาย หยาดน้ำค้าง กระดุมทอง หญ้ารากหอม หญ้าหมู่ดาว การถ่ายภาพทุ่งดอกไม้ป่าตอนแดดเปรี้ยงๆ นั้นไม่สวยสมดั่งใจ แถมเหงื่อตกและหิวน้ำอีกต่างหาก ช่างภาพมืออาชีพกระซิบว่า มาถ่ายตอนแสงเช้าจะสวยกกว่านี้...เอ้า ไว้แก้ตัวใหม่ปีหน้าก็แล้วกัน ด้าน พัฒน์มาศ ซึ่งเพิ่งมารับหน้าที่ดูแลภาคอีสานเมื่อไม่นาน ยอมรับว่า มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นทั้งใน กทม.และภาคกลางเป็นสาเหตุที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดน้อยลง เลยขอให้จังหวัดต่างๆ ดึงคนในภาคอีสานบ้านเฮามาเที่ยว มากิน มาช็อปกันให้มากขึ้น เพราะภาคนี้มีความหลากหลายทั้งทางด้านประเพณีและวัฒนธรรมในรูปลักษณ์ของความเป็น แหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็มีความน่ามหัศจรรย์ อาทิ น้ำตกแสงจันทร์ หรือน้ำตกรู (http://image.ohozaa.com/i/2fc/9gliD.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sit0) ไหนๆ ก็มาแถลงข่าวที่อุทยานผาแต้มแล้ว ทาง ททท.อุบลฯ จึงพาไปดูไฮไลต์หลักๆ ของที่นี่ อาทิ ภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์ 3,000-4,000 ปี ซึ่งถ้าไปตรงนั้น และแหงนขึ้นไปดูมุมสูง จะเห็นรังผึ้งหลวงสีดำมืดหลายสิบรังสลับกับรังขาวที่ไม่มีตัวผึ้งเป็นรังร้าง เจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่า ช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกปีจะมีผึ้งหลวงมาทำรังเยอะแบบนี้ เพราะในป่าจะแห้งแล้งและอาจมีไฟป่า เป็นการหนีร้อนมาพึ่งเย็น อีกจุดที่เราไปกันคือ น้ำตกรู ที่ตอนนี้น้ำอาจจะน้อยไปหน่อย ถ้าจะให้สวยต้องมาเที่ยวตอนเดือน ส.ค.-ต.ค. จุดนี้อย่าได้มาตอนหน้าแล้งเด็ดขาด เพราะน้ำแห้ง ไม่มีน้ำมาลงรูให้ดู มาแล้วอาจจะเสียอารมณ์เปล่าๆ ส่วนน้ำตกสร้อยสวรรค์นั้นยังมีน้ำให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ กัน แต่ทางขึ้นทางลงนั้นเล่นเอาแย่เหมือนกัน ฉะนั้นใครแข้งขาไม่ดี และพวก สว.ทั้งหลายต้องระวัง ทว่า ความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ก็คุ้มค่ากับความเหนื่อย ผู้อำนวยการยุพา บอกว่า อุบลฯ มีแหล่งท่องเที่ยวให้เลือกมากมาย เช่น จะไปวัดวาอารามก็มีให้เลือกทั้งในเมืองและนอกเมือง ใครชอบสายวัดป่าก็ต้องไปที่วัดดอนธาตุของหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำมูลที่ ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หรือถ้าชอบล่องเรือแม่น้ำโขงก็ไปล่องเรือชมความงามของสามพันโบกบ้านผาชัน แหล่งโบราณคดี เช่น ปราสาทบ้านเบ็ญ และปราสาททองหลาง (http://image.ohozaa.com/i/3a8/WDBU.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5sism) ด้วยความที่ผู้อำนวยการยุพาอยากให้นักข่าวได้โปรโมตอุบลฯ กันแบบเต็มๆ เลยจัดล่องเรือจากบ้านผาชันไปที่สามพันโบก ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต เพราะได้ชื่อว่าเป็นแกรนด์แคนยอนเมืองไทย และไม่กี่ปีมานี้สามพันโบกได้ใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณามากมาย ไกด์แต่ละคนจะชี้ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นว่า จุดนั้นจุดนี้แหละที่พระเอกป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจกับสาวตลกชื่อดัง ตุ๊กกี้ มาถ่ายทำโฆษณากัน พวกเรามาลงเรือที่บ้านผาชัน ซึ่งก่อนจะไปนั่งเรือนั้นก็มีเสียว เพราะทางชันมาก ต้องค่อยๆ ไต่กันลงไป พวกกลัวความสูงอาจจะไม่สนุกนัก เส้นทางที่เรือหางยาววิ่งกว่าจะไปที่ สามพันโบก ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านโป่งเป้า ต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร ใช้เวลานานพอสมควร เกือบชั่วโมงเหมือนกัน แต่ระหว่างทางเขาจอดให้ถ่ายรูปที่น้ำตกห้วยบอนตรงฝั่งลาว เป็นน้ำตกสามสาย สวยงามมาก สามพันโบก เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ในลำน้ำโขง จะเห็นเฉพาะช่วงฤดูแล้งที่น้ำในแม่น้ำโขงลดลงที่เรียกว่า สามพันโบก เพราะบนแก่งหินเหล่านั้นมีแอ่งน้ำเล็กใหญ่มากกว่า 3,000 แอ่ง คำว่า โบก เป็นภาษาลาว แปลว่า แอ่ง ในจำนวนกว่า 3,000 แอ่งนั้น จะมีรูปร่างแตกต่างกันไป แล้วแต่ใครจะจินตนาการ แต่ไกด์จะชี้ให้ดูหลักก็คือ สระมิกกี้เมาท์ สระมรกต และสระรูปหัวใจ ซึ่งแต่ละสระก็มีเรื่องเล่ามีนิยายปรัมปราที่สืบทอดกันมา ฟังแล้วก็สนุกดี ต้องบอกการปีนป่ายขึ้นไปชมสระมรกตนั้น หรือขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดของสามพันโบก ต้องใช้เรี่ยวแรงพอสมควร บางคนสวมรองเท้าส้นสูงอาจจะมีปัญหา ซึ่งวันที่เราไปกันนั้นลมแรงมาก ยืนอยู่ข้างบนเกือบจะปลิวไปตามกระแสลม ต้องคอยจับหมวกตลอด เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีเม็ดทรายละเอียดปลิวมาเข้าปากเข้าตาอีกต่างหาก ให้ความรู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ในทะเลทรายอย่างนั้นแหละ อย่างไรก็ตาม การได้สูดอากาศบริสุทธิ์บนแกรนด์แคนยอนของเมืองไทย พร้อมกับดูทิวทิศน์สองฝั่งโขงทั้งฝั่งไทยลาว ก็ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง และอยากให้ใครต่อใครที่ยังไม่ได้มาสัมผัส สามพันโบก ได้มีโอกาสแบบนี้บ้าง แล้วจะได้รู้ว่าอีสานบ้านเฮายังมีที่เที่ยวประเภทมหัศจรยย์ธรรมชาติอีกเยอะ |