ปรับดวงปีชง 'ชวด เถาะ มะเมีย ระกา' รับโชคดี พ้นทุกข์ภัยปี 54

การไหว้ “องค์ไท้ส่วย” หรือ “ไท้ส่วยเอี้ยเป๋าส่วยกุงเผ่งอัง” ถือเป็นประเพณีการไหว้ฝากดวงชะตาในช่วงตรุษจีนของทุกปี โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 ซึ่งชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีนที่มากราบไหว้ต่างมีความเชื่อว่า เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย จะบันดาลความสุข หรือความทุกข์ให้เกิดแก่ใครนั้นขึ้นอยู่กับความเมตตาของท่าน หากใครมีเกณฑ์ชะตาที่ดีอยู่แล้วหากได้ไปไหว้ก็จะดียิ่งขึ้น แต่ถ้าใครมีดวงชะตาที่ไม่ดี ต้องการอะไรก็ติดขัด มักจะไปอธิษฐานขอพรจากท่านให้ช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยให้ เพื่อจะได้ไม่ยํ่าแย่เกินไปนัก
อ.คฑา ชินบัญชร นักพยากรณ์ฮวงจุ้ยและไพ่ยิปซี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปีเถาะ พ.ศ. 2554 นี้ องค์ไท้ส่วยที่ลงมาสถิตดวงปี มีพระนามว่า “ห่วมเล้งไต่เจียงกุง” โดยไท้ส่วยเอี้ยปีนี้ค่อนข้างน่ารัก เป็นกระต่ายตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตูม ไม่ตูมตาม เป็นกระต่ายที่อยู่ในธาตุไฟและธาตุดิน จึงทำให้กระต่ายในปีนี้ เป็นกระต่ายที่มีพลัง ตื่นตัว

ในเรื่องของปีชงจะเริ่มนับตั้งแต่วันตรุษจีน ฉะนั้นตั้งแต่วันปีใหม่ไปจนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ปีชงยังเป็น 4 ปีนี้อยู่ คือ ปีขาลหรือปีเสือ ปีวอกหรือปีลิง ปีมะเส็งหรือปีงู และ ปีกุนหรือปีหมู ดังนั้น ถ้ามีโอกาสควรจะไปบริจาคค่าไฟ ถวายหลอดไฟให้วัด เติมนํ้ามันตะเกียงรับปีใหม่ เพื่อให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง ด้วยความเชื่อที่ว่าอัคคีหรือไฟ จะช่วยเผาไหม้สิ่งที่ไม่ดี ออกไป

เมื่อย่างเข้าสู่วันที่ 3 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ในปีพ.ศ. 2554 ผู้ที่เกิดปีชง หรือที่คนไทยเรียกว่า ปีปะทะ กับองค์ไท้ส่วย ในปีนี้ประกอบไปด้วย ปีระกา หรือปีไก่ ชง (ปะทะ) โดยตรงกับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ยและเป็นอริกับปีเถาะโดยตรง โดยจะต้องระวังในเรื่องของอุบัติเหตุ และอาจมีปัญหาเกี่ยวข้องกับความรัก อีกเรื่องหนึ่ง คือ ปัญหาในเรื่องสัญญาคดีความ แต่โชคดีที่ปีระกา มีดาวมงคลส่องถึง 3 ดวง ทำให้ไม่เป็นปัญหาใหญ่นัก

ถัดมา คือ ปีชวดหรือปีหนู เป็นปีร่วมชงและยังเฮ้ง (เบียดเบียน) กับปีเถาะ ปีต่อมา คือ ปีมะเมียหรือปีม้า ปีร่วมชงและยังผั่ว (แตกแยก) กับปีเถาะ โดยจะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวและบริวาร อีกเรื่องหนึ่ง คือ การเสียทรัพย์โดยไม่จำเป็น หรือมีเหตุให้เสียทรัพย์ส่งผลให้เก็บเงินไม่อยู่ รวมไปถึง ร่างกายช่วงล่าง เช่น ขา เอว เข่า กระดูก ต้องระวังให้ดี

ปีสุดท้ายที่เป็นปีชง ถึงแม้จะไม่ได้ล่วงเกินไท้ส่วยเอี้ย แต่ไท้ส่วยเอี้ยสถิตอยู่บนศีรษะหรือเหนือศีรษะขึ้นไป คือ ราศีของปีนี้ นั่นก็คือ ปีเถาะหรือปีกระต่าย โดยในปีเถาะนี้มีดาวมงคลถึง 3 ดวง จึงทำให้โชคดีในเรื่องของการงาน รวมทั้งในเรื่องการเงินและความรัก แต่ ไม่ดีในเรื่องของสุขภาพจึงต้องระมัดระวังให้ดี

สำหรับผู้เกิดในปีชงทั้ง 4 ปีนี้ ถ้ามีโอกาสควรไปฝากดวงชะตากับไท้ส่วยเอี้ยที่วัดจีนที่มีเทพเจ้าประจำปี อาทิ วัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส ที่เยาวราช กรุงเทพฯ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 ที่ จ.นนทบุรี วัดจีนประชาสโมสรหรือวัดเล่งฮกยี่ จ.ฉะเชิงเทรา วัดมังกรบุปผารามหรือวัดเล่งฮัวยี่ จ.จันทบุรี วัดเทพพุทธารามหรือวัดเซียนฮุดยี่ จ.ชลบุรี ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นวัดจีนที่เก่าแก่

วิธีบูชาเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย เมื่อไปถึงที่วัดแล้วให้นำ เครื่องบูชา มีกระดาษแดง กระดาษเงิน และกระดาษทอง จะมี 12-13 แผ่น แล้วแต่ปี เพราะบางปีมีเดือน 8 สองครั้ง เดือน 5 สองครั้ง ก็จะมี 13 เดือน และ 12 เดือน ปีนี้จะใช้ 12 แผ่น

กระดาษทอง คือ กิมฮวย เป็นตัวแทนของแต่ละเดือน กระดาษเทียบเชิญสีแดง เป็นตัวแทนวัน เดือนปีเกิดของเรา ให้เขียนชื่อและนามสกุลของเรา

จากนั้น จุดธูป 12 ดอก เป็นตัวแทน 12 เดือนของปี และขอพรจากท่านให้ผ่านพ้นปีนี้ไปได้ด้วยดี เสร็จแล้วให้เอากระดาษปัดจากหัวลงไปจนถึงเท้า โดยปัดพอเป็นพิธี ไม่จำเป็นต้องก้มลงไปมาก จำนวน 12 ครั้ง เพียงเท่านี้ก็เสร็จพิธี

วิธีการแก้ชงสำหรับปีที่ปะทะกับปีกระต่ายในปีนี้ อ.คฑา กล่าวว่า สามารถทำได้โดยผู้ที่เกิด ใน ปีระกาหรือปีไก่ ควรจัดวาง ปี่เซียะ หันหน้าไปทางทิศเหนือ จะวางที่โต๊ะทำงานหรือห้องทำงาน หรือจะเป็นหน้าบ้านก็ได้แต่ให้หันหน้าไปทางทิศเหนือ

ส่วนคนเกิดปี มะเมียหรือปีม้า จะต้อง วางทองก้อน 3 ก้อน เพื่อจะได้ดึงทรัพย์เข้ามาไม่ให้เสียทรัพย์ไป ให้เก็บทรัพย์อยู่ ดังนั้น จึงต้องวางเงินจีนหรืองวนป้อ โดยวางไว้ในทิศเหนือเช่นกัน

สำหรับคนเกิดใน ปีชวดหรือปีหนู ควรวางเจดีย์ 9 ชั้น เพราะปีนี้มีดาวบุ้นเชียงถะ เป็นดาวที่เกี่ยวข้องกับการเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ควรจะวางไว้ในทางทิศเหนืออีกเหมือนกัน เพราะเป็นทิศมงคล โดยปีนี้ทิศที่ดีคือ ทิศเหนือกับทิศใต้ ส่วนทิศไม่ดีคือ ทิศตะวันออกกับทิศตะวันตก

สุดท้ายคนที่เกิด ปีเถาะหรือปีกระต่าย ให้ วางแพะ 1 ตัว หรือ 3 ตัว ก็ได้ ให้หน้าไปทางทิศเหนือ ก็จะทำให้โชคดี ในเรื่องของแพะ 1 ตัว หรือแพะ 3 ตัว หมายถึง 3 สมพงษ์ ก็จะโชคดี 3 ประการ คือ เกี่ยวกับงาน การเลื่อนตำแหน่ง ความก้าวหน้า โดยเฉพาะงานราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง ประการต่อมา เกี่ยวกับเรื่องของความรัก และเกี่ยวข้องกับเรื่องการเงิน

อ.คฑา กล่าวทิ้งท้ายเป็นแง่คิดไว้ว่า ปีชงหรือปีที่ไม่ดี รวมไปถึงปีที่ดี จริง ๆ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นความเชื่อของชาวจีน ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจให้กับคนที่เกิดในแต่ละปี เกิดความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นึกถึงคนอื่น และเป็นเครื่องเตือนในการดำเนินชีวิตให้กับตนเองและผู้อื่น

โดยจะต้องดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเกิดในราศีใดก็ตาม ถ้าเราจะผ่านพ้นแต่ละปีไปได้อย่างมีความสุข ให้ยึดหลัก 5 ประการนี้ไว้ คือ ประการแรก ให้รำลึกถึงคุณของแผ่นดิน แผ่นดินที่เราใช้อยู่อาศัย

ประการต่อมา รำลึกถึงพระมหากษัตริย์ที่ปกปักรักษาแผ่นดินให้เราได้อยู่อาศัย ประการที่ 3 คือ พระคุณของพ่อแม่ ประการถัดมา คือ พระคุณของศาสนา โดยทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดี เป็นศูนย์รวมจิตใจ และกล่อมเกลาจิตใจคน รวมทั้งเป็นที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวทางใจของคน

“สุดท้าย เทวดาผู้รักษาตัวเรา หรือตัวเราเอง โดยทำอะไรก็ตามที่ทำแล้วตนเองมีความสุขและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือเบียดเบียนผู้อื่น พระพุทธเจ้าถึงสอนให้เดินทางสายกลาง คือ ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อนและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย จึงจะเรียกว่า ความดี

เมื่อปฏิบัติอย่างนี้ได้แล้วจะทำให้ผ่านพ้นปี 2554 ไปได้ด้วยดี และมีความสุข แม้จะเป็นคนที่เกิดปีชงหรือไม่ใช่คนที่เกิดปีชงก็ตาม”.

...................

'ไท้ส่วยเอี้ย'เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา

ไท้ส่วยเอี้ย เป็นเทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา โดยคำว่า ไท้ แปลว่า ใหญ่กว่า หรือ กว่า ส่วย แปลว่า วัย หรือ อายุ และ เอี้ย แปลว่า เทพเจ้า หรือ คนที่มีอำนาจบารมี

ประจำปีนักษัตรหนึ่งรอบนักษัตรมี 12 ปี 5 รอบ ก็เท่ากับ 60 ปี ชาวจีนถือ 5 รอบเป็นรอบนักษัตรใหญ่ บนฟ้าจึงมีดาว 60 ดวง หรือไท้ส่วยเอี้ย 60 องค์ วาระเทวกิจของแต่ ละองค์มีเพียง 1 ปีเท่านั้น หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไป คณะดาวไท้ส่วยเอี้ยล้วนเป็นดาวดุ เข้มงวดกวดขันดั่งผู้คุ้มกฎ หละหลวมไม่ได้ ไม่เช่นนั้นชะตาประจำปีจะเคลื่อนเพี้ยน ปีไหนใครชงก็ต้องเข้าไปรายงานตัวขอสยบอ้อนวอนให้ท่านผ่อนหนักเป็นเบา สลายเบาให้จางหาย.